อสังหาฯ เอเชียวันนี้ จับตาไทยทำเลน่าลงทุน

You are currently viewing อสังหาฯ เอเชียวันนี้ จับตาไทยทำเลน่าลงทุน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการที่ยักษ์ใหญ่ของเอเชียอย่างจีน มีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ทั้งในแง่การคมนาคมและโครงการเชิงพาณิชย์ เพื่อตอกย้ำภาพความเป็นศูนย์กลางทางการค้าและอุตสาหกรรมของภูมิภาคนี้ โดยจีนมีการพัฒนาในพื้นที่ใหม่ ๆ ในหลายหัวเมือง ให้เป็นเมืองการค้า ย่านอุตสาหกรรม จึงไม่ได้มีเฉพาะหัวเมืองหลักที่เติบโต แต่ยังมีหัวเมืองใหม่ที่เกิดขึ้น 

จากการพัฒนาดังกล่าวเป็นแรงขับให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่องในภูมิภาคด้วย ประกอบกับราคาอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ไทย ยังถือว่าถูกกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก ซึ่งเอื้อต่อการซื้อเพื่ออยู่อาศัย ลงทุน หรือตากอากาศ

อสังหาฯ ไทยยังน่าลงทุนในสายตาต่างชาติ

ด้านอสังหาริมทรัพย์ของไทย ยังเป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ทั้งกลุ่มทุนสัญชาติยุโรปและกลุ่มทุนจากจีน ฮ่องกง ไต้หวัน โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มทุนจากจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เป็นกลุ่มทุนที่เข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างเด่นชัด ซึ่งการเข้ามาลงทุนของกลุ่มทุนจีน มีด้วยกัน 3 รูปแบบหลัก คือ

1. กลุ่มทุนที่เข้ามาลงทุนโครงการขนาดใหญ่ เช่น หาผู้ร่วมทุนท้องถิ่น (ไม่เน้นรายใหญ่) เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เน้นขายให้กับลูกค้าชาวจีนด้วยกัน

2. กลุ่มบริษัท กลุ่มกองทุนทางการเงิน เข้ามาลงทุนซื้ออาคารสำนักงาน ซื้อคอนโดมิเนียมแบบยกโครงการ เพื่อนำไปขายต่อหรือลงทุน

3. นักลงทุนรายย่อย เข้ามาลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมเป็นรายยูนิต กระจายหลาย ๆ โครงการ หรือจะเลือกลงทุนแบบซื้อยกฟลอร์

ธปท. ชี้ คนจีนมาซื้อคอนโดฯ แตะ 4 หมื่นล้าน

จากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา กลุ่มลูกค้าชาวจีนได้เข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในไทยเป็นจำนวนมาก ด้วยมูลค่าเงินโอนเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยสูงถึง 40,000 ล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อน 65.9% และคิดเป็น 11.9% ของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ของอาคารชุดทั้งประเทศ ยิ่งตอกย้ำภาพความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ชัดเจน โดยตามรายงานดังกล่าวยังระบุอีกว่า ทำเลฮอตฮิตของกลุ่มลูกค้าจีน ได้แก่

1. สุขุมวิท

2. พระราม 9

3. ราชเทวี

4. อโศก

5. รัชดา

6. ห้วยขวาง

อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาตลาดลูกค้าจีนที่มีสัดส่วนมากเกินไปก็มีความเสี่ยง ซึ่งผู้ประกอบการไทยต้องหากลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงให้มากขึ้น

ญี่ปุ่นยังคงเข้ามาลงทุนในไทยต่อเนื่อง

สำหรับกลุ่มทุนญี่ปุ่น ที่ก่อนหน้านี้เข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทยในลักษณะร่วมทุนกับบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จำนวนมาก คาดการณ์ว่ายังคงมีต่อเนื่อง เพราะปัญหาระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ทำให้สัดส่วนการลงทุนในจีนของญี่ปุ่นไม่ได้เพิ่มขึ้น และหากประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนแล้ว ต้องยอมรับว่ากลุ่มประเทศในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน มีความโดดเด่นมาก

เมื่อเจาะลึกลงไปแล้วในกลุ่มอาเซียน ไทยยังมีความน่าสนใจ เพราะการลงทุนโครงการคมนาคมของภาครัฐจะเปิดหน้าดินใหม่ ๆ ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่สูงเกิน มีโอกาสเติบโต เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดทุนกลุ่มนี้ แต่การเข้ามาลงทุนอาจจะไม่ได้หวือหวาเมื่อเทียบกับช่วงก่อน

ภาพการเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทยของกลุ่มทุนต่างชาติ สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยยังคงเป็นปลายทางการลงทุนที่สำคัญ และอีกหนึ่งสิ่งที่การันตีว่าอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีคุณภาพและความโดดเด่นคือรางวัลพร็อพเพอร์ตี้กูรู ไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ปี 2019 (PropertyGuru Thailand Property Awards 2019) เวทีเฟ้นหานักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดของไทย และเป็นรางวัลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชีย เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ในปีนี้

การแข่งขันโครงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ปีนี้จะครอบคลุมโครงการทั่วประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุย หัวหิน เขาใหญ่ ชายฝั่งตะวันออก พังงา กระบี่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ของไทย รวมถึงรางวัลด้านกาออกแบบ สถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน การออกแบบภูมิทัศน์

ทั้งนี้ การแข่งขันโครงการอสังหาริมทรัพย์ของไทยแลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ อวอร์ดส์ ปี 2019 ที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2562 มั่นใจได้เลยว่า จะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยที่โดดเด่นและเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติหลายโครงการเข้าร่วมอย่างแน่นอน


อ่านบทความต้นฉบับได้ที่ DDproperty.com

Leave a Reply